ตรุษจีน เป็นวันหยุดตามประเพณีของจีนที่สำคัญที่สุดในประเทศจีน ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” เพราะฤดูใบไม้ผลิตามปฏิทินจีนเริ่มต้นด้วยวันลีชุน ซึ่งเป็นวันแรกในทางสุริยคติของปีปฏิทินจีน วันดังกล่าวยังเป็นวันสิ้นสุดฤดูหนาว ซึ่งคล้ายกันกับงานเทศกาลของตะวันตก เทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 ในปฏิทินจีนโบราณและสิ้นสุดลงในวันที่ 15 Thai Golf Booking จึงถือโอกาสนี้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน ทั้งเรื่องวิธีไหว้ กิจกรรม ข้อห้าม ความหมายของไหว้ต่าง ๆ มีอะไรบ้าง เพื่อให้ชาวไทยเชื้อสายจีน มีเวลาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเทศกาลอันเป็นมงคลนี้
ความเป็นมาของวัน ตรุษจีน
ตรุษจีน เป็นวันหยุดตามประเพณีของจีนที่สำคัญที่สุด ในประเทศจีน ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” เพราะฤดูใบไม้ผลิตามปฏิทินจีนเริ่มต้นด้วยวันลีชุน ซึ่งเป็นวันแรกในทางสุริยคติของปีปฏิทินจีน วันดังกล่าวยังเป็นวันสิ้นสุดฤดูหนาว (ซึ่งคล้ายกันกับงานเทศกาลของตะวันตก)
เทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 ในปฏิทินจีนโบราณ และสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ด้วยเทศกาลโคมไฟ (เทศกาลปีใหม่จีนจึงไม่ตรงกันในแต่ละปี) คืนก่อนตรุษจีนเป็นวันซึ่งครอบครัวจีนมารวมญาติเพื่อรับประทานอาหารเย็นเป็นประจำทุกปี ซึ่งเรียกว่า ฉูซี่ หรือ “การผลัดเปลี่ยนยามค่ำคืน” เนื่องจากปฏิทินจีนเป็นแบบสุริยจันทรคติ ตรุษจีนจึงมักเรียกว่า “วันขึ้นปีใหม่จันทรคติ”
จุดกำเนิดของตรุษจีนนั้นมีประวัติหลายศตวรรษ จากการค้นคว้าของ กิตติธัช นําพิทักษ์ชัยกุล ทายาทรุ่นที่ 3 เจ้าของกิจการปฏิทินน่ำเอี้ยง ซึ่งเป็นปฏิทินจีนฉบับภาษาไทยที่ได้รับความนิยมมากในไทย ได้พบข้อมูลว่าเทศกาลตรุษจีนอาจเริ่มต้นในราชวงศ์โจว 周朝 (1046-256 ปีก่อนคริสตศักราช) เริ่มใช้คำว่า “Nián (年)” ซึ่งมีความหมายว่า “ปี” ในวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ตรงกับปฏิทินตามจันทรคติจีน ในวันที่ 1 เดือน 1
ตรุษจีน มีการเฉลิมฉลองกันในหลายประเทศ และดินแดนซึ่งมีประชากรจีนอาศัยอยู่มาก อย่างเช่น จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเก๊า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย รวมทั้งในชุมชนชาวจีนที่อื่น
วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว ตรงกับวันไหน และมีกิจกรรมอะไรบ้าง?
วันตรุษจีน ปี 2565 นั้น ตรงกับวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 โดยก่อนที่จะถึงวันตรุษจีน หรือ “วันเที่ยว” ยังมีอีก 2 วันสำคัญของเทศกาลตรุษจีน คือ “วันจ่าย” และ “วันไหว้”
– วันจ่าย (หรือวันตื่อเล็ก) ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2565
เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปหาซื้ออาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ มาเตรียมพร้อมไว้ ก่อนที่ร้านค้าต่าง ๆ จะหยุดยาวในช่วงวันตรุษจีน
– วันไหว้ ตรงกับวันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565
เป็นวันที่ทุกคนจะทำการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ ที่ซื้อเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ และเป็นวันที่ให้ ‘อั่งเปา’ กันและกัน
– วันเที่ยว (หรือวันตรุษจีน) ตรงกับวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
เป็นวันที่ทุกคนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีแดง หรือสีทอง ครอบครัวชาวจีนจะพากันออกไปท่องเที่ยว และไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ พร้อมทั้งถือเคล็ดต่าง ๆ ตามธรรมเนียม เช่น งดทำบาป ไม่ด่าทอ ไม่พูดคำหยาบ และไม่คิดร้ายต่อกัน เพื่อความเป็นสิริมงคล
วิธีไหว้ตรุษจีน เสริมชีวิตให้เฮง เฮง เฮง!
ช่วงเช้ามืด คือ การไหว้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยเครื่องไหว้ที่เป็นเนื้อสัตว์ 3 อย่าง คือ หมูสามชั้นต้ม ไก่ต้ม เป็ดต้ม พร้อมทั้งเหล้า น้ำชา และกระดาษเงิน-กระดาษทอง โดยจะกระทำในช่วง 7-8 โมงเช้า
- ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใช้ธูป 3 ดอก
ช่วงสาย คือ การไหว้บรรพบุรุษที่เสียชีวิตแล้ว ด้วยซาแซ อาหารคาว-หวาน รวมถึงเผากระดาษเงิน-กระดาษทอง พร้อมเสื้อผ้าให้กับบรรพบุรุษ กระทำไม่เกินเที่ยงวัน นอกจากนี้หลังจากที่ทุกคนในครอบครัวร่วมรับประทานอาหารไหว้บรรพบุรุษเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการแลกเปลี่ยนอั่งเปากันอีกด้วย
- ไหว้บรรพบุรุษใช้ธูป 3 ดอก
ช่วงบ่าย คือ การไหว้ผีไม่มีญาติ สัมภเวสี คล้ายของเซ่นบรรพชน แต่ถ้าไหว้ผีจะปูเสื่อไหว้ที่พื้น ด้วยข้าว กับข้าว ขนม เช่น ขนมเข่งกับขนมเทียน และกระดาษเงิน-กระดาษทอง รวมถึงมีการจุดประทัดเพื่อปัดเป่าไล่สิ่งชั่วร้ายด้วย (ประมาณบ่ายโมงถึง 4 โมงเย็น)
- ไหว้สัมภเวสี ใช้ธูป 1 ดอก
ไหว้เทพเจ้าขอโชคลาภ ในยามดึก
โดยฤกษ์ไหว้ไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ให้เริ่มทำในยามแรกของปี นั่นคือ เวลา 23.00 จนถึง 05.00 น. โดยตั้งโต๊ะไหว้ให้หันหาทิศตะวันออก อัญเชิญองค์ไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เพราะเชื่อว่าปีนี้เทพไฉ่ซิงเอี้ยจะเสด็จมาในทิศตะวันออกประทับสู่บ้านของเรา เพื่อความเป็นสิริมงคล
- ไหว้เจ้าให้ใช้ธูป 5 ดอก
9 ข้อห้ามทำในวันตรุษจีน
ข้อห้ามทำในวันตรุษจีน จะเชื่อมโยงกับความเชื่อที่สือบทอดกันมา เพื่อไม่ให้ขัดต่อโชคลาภที่จะได้รับในปีใหม่นี้
- ห้ามทำความสะอาดบ้าน เพราะเชื่อว่าจะเป็นการกวาดโชคลาภออกไปจากบ้านจนหมด
- ห้ามตัดผม สระผม ห้ามตัดเล็บ เพราะเชื่อว่าจะเป็นการนำความมั่งคั่งออกไป
- ห้ามร้องไห้ กุศโลบายจะทำให้ร้องไห้ทั้งปี และเจอเรื่องเสียใจไปตลอด
- ห้ามเข้าห้องนอนคนอื่น ความเชื่อนี้ระบุชัดว่าจะทำให้โชคร้าย
- ห้ามทำของแตก หมายถึง ลางร้ายกำลังมาเยือน ครอบครัวจะแตกแยก
- ห้ามใช้ของมีคม เพราะจะทำให้เหมือนกับตัดความโชคดีออกไป
- ห้ามใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ เพราะเป็นสีแห่งความเศร้าโศก จึงนิยมใส่สีแดง เพราะเป็นสีแห่งความสุข และโชคดี
- ห้ามให้ยืมเงิน เพราะจะทำให้เสียทรัพย์ตลอดปี
- ห้ามพูดจาไม่ดี หรือ ห้ามพูดคำหยาบ เพราะจะทำให้ครอบครัวทะเลาะกัน และนำพาแต่เรื่องวุ่นวายมาตลอดทั้งปี
อาหารคาว-ขนม-ผลไม้ เสริมมงคลในวันตรุษจีน มีความหมายอะไรบ้าง?
กลุ่มเนื้อสัตว์ หรืออาหารคาวต่าง ๆ
– ไก่ หมายถึง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ความสง่างาม ยศ ตำแหน่ง ความขยัน
– หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ตลอดทั้งปี
– เป็ด หมายถึง สิ่งที่บริสุทธิ์ ความสะอาด และความสามารถอันหลากหลาย
– ปลา หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ เหลือกินเหลือใช้
– เป๋าฮื้อ หมายถึง มีความเชื่อว่าเป็นอาหารสิริมงคล เพราะมีความหมายช่วยห่อความมั่งคั่งให้เหลือกินเหลือใช้ นิยมกินในโอกาสสำคัญ
– ปู หมายถึง การสอบได้ตำแหน่งที่ดี
– กุ้งมังกร, กุ้ง หมายถึง ความมีอำนาจวาสนา ชีวิตที่รุ่งเรืองรวมทั้งเป็นตัวแทนของความสุข
– สาหร่ายดำ หมายถึง ความร่ำรวย
– ตับ หมายถึง อำนาจวาสนา
– บะหมี่ยาว หรือหมี่ซั่ว หมายถึง การมีอายุยืนยาว
กลุ่มขนมมงคล
– ขนมเข่ง หมายถึง ความหวานชื่น ความราบรื่นในชีวิต ความอุดมสมบูรณ์
– ขนมเทียน หมายถึง ความหวานชื่น ราบรื่น รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลมมีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์
– ขนมไข่ หมายถึง ความเจริญเติบโต
– ขนมถ้วยฟู หมายถึง เพิ่มความรุ่งเรือง เฟื่องฟู
– ซาลาเปา, หมั่นโถว หมายถึง ไหว้เพื่อให้เปาไช้ ห่อโชค ห่อลาภ
– จันอับ หมายถึง เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป ประกอบด้วยขนม 5 อย่าง คือ
- เต้ายิ้งปัง คือ ขนมถั่วตัด
- มั่วปัง คือ ขนมงาตัด
- ซกซา คือ ถั่วเคลือบน้ำตาล
- กวยแฉะ คือ ฟักเชื่อม
- โหงวจ๊งปัง คือ ขนมข้าวพอง
– ขนมต้ม หมายถึง บรรพชนอวยพร
กลุ่มผลไม้มงคล
– กล้วย หมายถึง กวักโชคลาภ มีลูกหลาน มีวงศ์วานว่านเครือสืบสกุล
– ส้มสีทอง หมายถึง มหาสิริมงคล โชคดี ประสบแต่สิ่งดี ๆ
– องุ่นสีแดง หมายถึง ความเพิ่มพูน ความเจริญงอกงาม และการมีอายุยืนนาน
– แอปเปิลสีแดง หมายถึง ความสันติสุข สันติภาพ
– สาลี่ หมายถึง รักษาคุณงามความดี รักษาโชคลาภเงินทองไม่ให้เสื่อมหาย
– ส้มโอ หมายถึง ความสมบูรณ์
– เมล่อน หมายถึง การเจริญเติบโต
ขอบคุณข้อมูลจาก : อ้างอิง 1. th.wikipedia 2. prachachat 2. thairath
Comment (0)